Offshore – Onshore

ตลาดออฟชอว์ (Offshore) คือ ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนที่ซื้อขายกันที่ต่างประเทศ
ส่วนออนชอร์ (Onshore) คือ ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในประเทศ

     ซึ่งโดยปกติอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทในทั้ง 2 ตลาดจะอยู่ในระดับที่แทบจะไม่แตกต่างกัน เพราะไม่ว่าต่างชาติหรือคนไทยก็สามารถที่จะนำเงินบาทออกไปซื้อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งที่ออฟชอว์หรือออนชอร์ก็ได้ แต่สำหรับคนไทยจะมีข้อจำกัดของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่กำหนดให้สามารถนำเงินบาทออกนอกราชอาณาจักรได้ไม่เกินคนละ 50,000 บาท เพราะฉะนั้นตลาดที่คนไทยใช้สำหรับซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนจึงอยู่ที่ตลาดออนชอร์เท่านั้น 

     ต่อมาเมื่อ ธปท.ออกมาตรการกันสำรองเงินตราต่างประเทศที่มาแลกเงินบาทในสัดส่วน 30% ส่งผลให้ค่าเงินบาทในตลาดทั้งสองแตกต่างกันมากถึง 2 บาท เนื่องจากมาตรการดังกล่าวทำให้เงินดอลลาร์ที่นำมาแลกเป็นเงินบาทจะต้องถูกหักออก 30% เพื่อกักไว้ที่ ธปท.เป็นเวลา 1 ปี มีผลให้การนำเงินต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทยมีต้นทุนที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันเงินบาทจะกลายเป็น "ของมีค่า" มากขึ้นสำหรับคนต่างชาติ จึงไม่น่าแปลกใจที่เมื่อมีความต้องการเงินบาทมากขึ้น ต่างชาติต้องหาเงินบาทมาส่งมอบให้ได้ตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ทำเอาไว้ ก็ยิ่งทำให้เงินบาทในตลาดออฟชอร์ก็ยิ่งแข็งค่ามากขึ้น จนมีอัตราแพงกว่าในตลาดออนชอร์ถึง 2 บาทต่อดอลลาร์ คือ ขณะที่ออนชอร์อยู่ที่ 35 บาทต่อดอลลาร์ แต่ที่ตลาดออฟชอร์เงินบาทอยู่ที่ 33 บาทต่อดอลลาร์แต่อัตราที่ 33 บาทต่อดอลลาร์จะมีผลเฉพาะต่างชาติเท่านั้น ขณะที่คนไทยในประเทศยังคงแลกเงินดอลลาร์ที่อัตรา 35 บาทต่อดอลลาร์ยกเว้นผู้ส่งออกที่เผลอกำหนดราคาส่งออกสินค้าผิดเท่านั้น!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น